ขอเล่าประวัติของราเม็งสักเล็กน้อยนะคะ เนื่องจากท่าเรือใหญ่ของญี่ปุ่นนั้นคือเมืองโยโกฮาม่า และก็อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวด้วย ทำให้โยโกฮามาเปรียบเหมือนประตูแห่งญี่ปุ่นเลยละค่ะ
เพราะว่าชาวต่างชาติใครไปใครมาก็จะมาหยุดอยู่ที่ท่าเรือโยโกฮามาก่อนจะเข้าโตเกียว ทำให้มีวัฒนธรรมนานาชาติผ่านเข้าสู่ญี่ปุ่น ณ จุดนี้ ซึ่งราเม็งก็เป็น 1 ในวัฒนธรรมที่ชาวจีนนำเข้ามาด้วยตอนที่อพยพมาทำงานตามเมืองท่าเรือ ในช่วงแรกเรียกว่าบะหมี่จีน พอคนญี่ปุ่นมาชิมปุ๊บก็เลยติดใจและดัดแปลงรสชาติให้เข้ากับคนญี่ปุ่น เกิดเป็นราเม็งน้ำข้นบ้างน้ำใสบ้าง มีเนื้อหมูฝานเป็นแผ่นบางๆ ส่วนใหญ่มักเป็นหมูมีมันตรงกลาง
ราเม็งมีหลากหลายชนิดแตกต่างกันตามภูมิภาค โดยชนิดของราเม็งจะแบ่งตาม เส้นก๋วยเตี๋ยว เนื้อ และน้ำซุป สามอย่างนี้เป็นหลัก โชยุราเม็ง (ราเม็งซีอิ๊ว), มิโซะราเม็ง, พลายราเม็ง, บันชูราเม็ง, ทะกะยะมะราเม็ง, โอโนะมิจิราเม็ง, จุ้ยราเม็ง, ปาล์มราเม็ง จุดเด่นอยู่ที่น้ำซุปราเม็งที่แสนจะเข้มข้น กับเส้นเหนียวนุ่มนี่ละค่ะ ที่ราเม็งมิวเซียม มีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกันค่ะ ตามแผนที่ด้านล่าง แต่ละชั้นก็จะแตกต่างกันออกไป
"Shinyokohama Raumen Museum"เป็นพิพิธภัณฑ์เฉพาะเกี่ยวกับ ราเม็ง เป็นที่นิยมมากเกี่ยวกับ จานก๋วยเตี๋ยวญี่ปุ่น ที่ถูกนำมาจากประเทศจีน
เพราะว่าชาวต่างชาติใครไปใครมาก็จะมาหยุดอยู่ที่ท่าเรือโยโกฮามาก่อนจะเข้าโตเกียว ทำให้มีวัฒนธรรมนานาชาติผ่านเข้าสู่ญี่ปุ่น ณ จุดนี้ ซึ่งราเม็งก็เป็น 1 ในวัฒนธรรมที่ชาวจีนนำเข้ามาด้วยตอนที่อพยพมาทำงานตามเมืองท่าเรือ ในช่วงแรกเรียกว่าบะหมี่จีน พอคนญี่ปุ่นมาชิมปุ๊บก็เลยติดใจและดัดแปลงรสชาติให้เข้ากับคนญี่ปุ่น เกิดเป็นราเม็งน้ำข้นบ้างน้ำใสบ้าง มีเนื้อหมูฝานเป็นแผ่นบางๆ ส่วนใหญ่มักเป็นหมูมีมันตรงกลาง
ราเม็งมีหลากหลายชนิดแตกต่างกันตามภูมิภาค โดยชนิดของราเม็งจะแบ่งตาม เส้นก๋วยเตี๋ยว เนื้อ และน้ำซุป สามอย่างนี้เป็นหลัก โชยุราเม็ง (ราเม็งซีอิ๊ว), มิโซะราเม็ง, พลายราเม็ง, บันชูราเม็ง, ทะกะยะมะราเม็ง, โอโนะมิจิราเม็ง, จุ้ยราเม็ง, ปาล์มราเม็ง จุดเด่นอยู่ที่น้ำซุปราเม็งที่แสนจะเข้มข้น กับเส้นเหนียวนุ่มนี่ละค่ะ ที่ราเม็งมิวเซียม มีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกันค่ะ ตามแผนที่ด้านล่าง แต่ละชั้นก็จะแตกต่างกันออกไป
"Shinyokohama Raumen Museum"เป็นพิพิธภัณฑ์เฉพาะเกี่ยวกับ ราเม็ง เป็นที่นิยมมากเกี่ยวกับ จานก๋วยเตี๋ยวญี่ปุ่น ที่ถูกนำมาจากประเทศจีน
ในชั้นแรกจะมีอัลบั้มที่นำเสนอพิพิธภัณฑ์ราเมนบะหมี่ราเม็งประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นรวมถึงความสำเร็จใหญ่ของ ราเม็งทันที จะแสดงหลากหลายก๋วยเตี๋ยวซุป toppings, และชามที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่นและแสดงวิธีทำเส้นก๋วยเตี๋ยว เครื่องมือในการใช้ผลิตเส้นราเม็ง และราเม็งชนิดต่างๆ และมีร้านขายสินค้า ของที่ระลึกก็จะเป็นพวกราเม็งกึ่งสำเร็จรูปเอาไปทำกินเองที่บ้าน มีอุปกรณ์การกินราเม็งมากมาย เช่น ชาม ถ้วย ช้อน ตะเกียบ เส้นที่เอาไว้ทำราเม็งค่ะ
และถ้าเพื่อน ๆ มาเที่ยวไม่ว่าจะเป็นที่นี่หรือไปเที่ยวที่ไหนสิ่งที่ขาดไม่ได้คงจะเป็นพวกของฝากหรือของที่ระลึกต่าง ๆ ใช่มั้ยค่ะ ที่พิพิธภัณฑ์ราเม็งแห่งนี้ก็มีให้เพื่อน ๆ ได้เลือกกันอย่างมากมาย เอาเป็นว่าอาจจะถือกลับไม่ไหวเลยด้วยซ้ำ
มีการแสดงบะหมี่ในแนวต่างๆค่ะ มาเพื่อรับประทานในอวกาศในสภาพที่ไร้แรงโน้มถ่วง ประมาณว่าตัดซองปั๊บ พอบะหมี่ลอยออกมาก็งับเข้าปากได้เลยค่ะ แหม คนญี่ปุ่นนี่ช่างคิดจริงๆ >_< และที่เด็ดที่สุดเลยต้องเป็นชั้นใต้ดินค่ะ เพราะในชั้นใต้ดินแห่งนี้มีร้านขายราเม็งอยู่มากมายค่ะ ตกแต่งในสไตล์ย้อนยุคไปช่วงประมาณ พ.ศ. 2500 และไม่ได้เด่นเรื่องบรรยากาศแค่นั้นนะ รสชาตินี่สุดยอดเลยด้วย ในสองชั้นใต้ดินผู้เข้าชมสามารถสำรวจจำลอง 01:01 ของถนนบางและบ้านของ Shitamachi, เมืองเก่าของ โตเกียว ของรอบปี 1958 เมื่อราเม็งนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและ ได้ดีภัตตาคารราเม็งสามารถพบมีแต่ละห้องมีจานราเม็งจาก ภูมิภาคต่างๆของญี่ปุ่น นอกจากร้านขายราเม็งแล้วยังมีร้านค้าสมัยเก่าอีกหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านขายขนมแบบย้อนยุค หรือร้านขายของฝากก็มีอยู่หลายร้านเช่นกัน ร้านราเม็งที่ราเม็งมิวเซียมแห่งนี้ มีเพียง 8 ร้านที่ผ่านการคัดเลือกว่าทำราเม็งได้อร่อยที่สุดในญี่ปุ่นเลยทีเดียวค่ะ โดยแต่ละร้านจะมาจากเมืองแห่งราเม็ง เช่น ซัปโปโร, ฟูคุชิมะ, วาคายามะ, ฮากาตะ แหม สำหรับราเม็งเลิฟเวอร์นี่ห้ามพลาดเด็ดขาด วิธีการทานราเม็งที่นี่ออกจะแปลกสักนิดนะคะ คือเราต้องเลือกร้านราเม็งที่ถูกใจก่อน โดยที่หน้าร้านจะมีตู้กดเลือกชนิดของราเม็งที่เราสนใจ มีรูปพร้อมราคาบอกไว้เสร็จสรรพ เรามีหน้าที่ใส่เงินเข้าไป แล้วกดเลือกป้ายที่ต้องการ คูปองของราเม็งชนิดที่เราต้องการก็จะหล่นลงมา เราก็เอาคูปองนั้นเข้าไปนั่งในร้านยื่นให้พนักงานรอคิวสักครู่ เมื่อที่นั่งในร้านว่างจึงจะเข้าไปรับประทานได้ค่ะ การเดินทางมาที่พิพิธภัณฑ์ราเท็งค่ะ มาถึงที่โยโกฮาม่า จากสถานีชินโยโกฮาม่าขึ้นไปทางเหนือ ไม่ไกลนัก เราจะพบ พิพิธภัณฑ์ราเม็ง (Shin Yokohama Raumen Museum) หรือที่เรียกกันว่า ราเม็งมิวเซียม นั่นเองค่ะ เปิด 11.00 - 23.00 น. (เข้าก่อน 22.00 น.) พอจ่ายค่าบัตรผ่านประตูผู้ใหญ่ 300 เยน เด็ก 100 เยน (ไม่รวมค่าราเม็งนะจ้ะ) เสร็จแล้วก็เข้าไปชมข้างในกันได้เลยค่ะ
ซึ่งสามารถขึ้นรถมาได้ดังนี้ค่ะ
Tokyu Toyoko Line
ประมาณ 25 นาทีและ 260 เยนจากสถานีชิบุยะ
Toyoko Line เป็นวิธีที่ถูกที่สุดจะได้รับจากการ kyo และโยโกะฮา ให้แน่ใจว่ากระดาน จำกัด แสดง หรือ แสดง รถไฟตามที่เร็วกว่า ในพื้นที่ รถไฟ แต่ราคาเดียวกัน โยโกฮามาจากสถานีรถไฟทำงานต่อไปใน Minato Mirai Line เพื่อ Motomachi - Chukagai เสนอเข้าถึงสะดวกที่สุดของโยโกฮามาของสถานกลาง
ประมาณ 25 นาทีและ 260 เยนจากสถานีชิบุยะ
Toyoko Line เป็นวิธีที่ถูกที่สุดจะได้รับจากการ kyo และโยโกะฮา ให้แน่ใจว่ากระดาน จำกัด แสดง หรือ แสดง รถไฟตามที่เร็วกว่า ในพื้นที่ รถไฟ แต่ราคาเดียวกัน โยโกฮามาจากสถานีรถไฟทำงานต่อไปใน Minato Mirai Line เพื่อ Motomachi - Chukagai เสนอเข้าถึงสะดวกที่สุดของโยโกฮามาของสถานกลาง
JR Tokaido Line
ประมาณ 25 นาทีและ 450 เยนจากสถานีโตเกียว
ประมาณ 20 นาทีและ 280 เยนจาก Shinagawa Station
Tokaido Line ให้การเชื่อมต่อที่เร็วที่สุดระหว่าง โตเกียว
ประมาณ 25 นาทีและ 450 เยนจากสถานีโตเกียว
ประมาณ 20 นาทีและ 280 เยนจาก Shinagawa Station
Tokaido Line ให้การเชื่อมต่อที่เร็วที่สุดระหว่าง โตเกียว
สถานี Yokohama Station
JR Yokosuka Line
ประมาณ 30 นาทีและ 450 เยนจากสถานีโตเกียว
ประมาณ 20 นาทีและ 280 เยนจาก Shinagawa Station
Yokosuka Line เป็นเพียงเล็กน้อยช้ากว่า Tokaido Line ตะวันตกเฉียงเหนือของโตเกียวสถานีสายจึงเป็น Sobu Line และให้การเชื่อมต่อโดยตรงไปยังสนามบินนาริตะบะและ
JR Yokosuka Line
ประมาณ 30 นาทีและ 450 เยนจากสถานีโตเกียว
ประมาณ 20 นาทีและ 280 เยนจาก Shinagawa Station
Yokosuka Line เป็นเพียงเล็กน้อยช้ากว่า Tokaido Line ตะวันตกเฉียงเหนือของโตเกียวสถานีสายจึงเป็น Sobu Line และให้การเชื่อมต่อโดยตรงไปยังสนามบินนาริตะบะและ
JR Shonan Shinjuku Line
ประมาณ 30 นาทีและ 540 เยนจากสถานีชินจูกุ
ประมาณ 20 นาทีและ 380 เยนจากสถานีชิบุยะ
Shonan Shinjuku Line ให้เชื่อมต่อโดยตรงระหว่าง โยโกฮามา และ Shinjuku , Shibuya และ Ikebukuro ในใจกลางโตเกียวและไซตามะ, กุมมะและ Tochigi prefectures เหนือของโตเกียว
ประมาณ 30 นาทีและ 540 เยนจากสถานีชินจูกุ
ประมาณ 20 นาทีและ 380 เยนจากสถานีชิบุยะ
Shonan Shinjuku Line ให้เชื่อมต่อโดยตรงระหว่าง โยโกฮามา และ Shinjuku , Shibuya และ Ikebukuro ในใจกลางโตเกียวและไซตามะ, กุมมะและ Tochigi prefectures เหนือของโตเกียว
JR - Line Keihin โตโฮกุ
ประมาณ 40 นาทีและ 450 เยนจากสถานีโตเกียว
ประมาณ 30 นาทีและ 280 เยนจาก Shinagawa Station
Keihin - Line โตโฮกุ เป็นช้ากว่าการเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างโตเกียวและโยโกฮาม่า ทางใต้ของสถานีโยโกฮามาสายจึงเป็น Negishi Line และให้การเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆในภาคกลางและภาคใต้โยโกฮาม่า
ประมาณ 40 นาทีและ 450 เยนจากสถานีโตเกียว
ประมาณ 30 นาทีและ 280 เยนจาก Shinagawa Station
Keihin - Line โตโฮกุ เป็นช้ากว่าการเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างโตเกียวและโยโกฮาม่า ทางใต้ของสถานีโยโกฮามาสายจึงเป็น Negishi Line และให้การเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆในภาคกลางและภาคใต้โยโกฮาม่า
Line Keihinkyuko Keikyu
ประมาณ 20 นาทีและ 290 เยนจาก Shinagawa Station
รถไฟเชื่อม Keikyu Shinagawa กับโยโกฮามาและ สนามบินฮาเนดะ "Rapid จำกัด แสดง"รถไฟที่เร็วที่สุด
ประมาณ 20 นาทีและ 290 เยนจาก Shinagawa Station
รถไฟเชื่อม Keikyu Shinagawa กับโยโกฮามาและ สนามบินฮาเนดะ "Rapid จำกัด แสดง"รถไฟที่เร็วที่สุด
JR Tokaido ชินคันเซ็น
ประมาณ 15 นาทีจากโตเกียวไปสถานีชินโยโกฮาม่า
All รถไฟไปตาม Tokaido ชิน หยุดที่ Shin - Yokohama Station ชินโยโกฮามาเป็นรถไฟประมาณ 10-15 นาทีจากสถานีโยโกฮาม่าและเมืองศูนย์กลางของโยโกฮามา
ประมาณ 15 นาทีจากโตเกียวไปสถานีชินโยโกฮาม่า
All รถไฟไปตาม Tokaido ชิน หยุดที่ Shin - Yokohama Station ชินโยโกฮามาเป็นรถไฟประมาณ 10-15 นาทีจากสถานีโยโกฮาม่าและเมืองศูนย์กลางของโยโกฮามา
จากสนามบิน
สนามบินใกล้กับโยโกฮามาเป็นนานาชาติ นาริตะสนามบิน ภายในประเทศและ สนามบินฮาเนดะ กรุณาเยี่ยมชมสนามบินหน้าตามลำดับสำหรับรายละเอียดการเข้าถึง
สนามบินใกล้กับโยโกฮามาเป็นนานาชาติ นาริตะสนามบิน ภายในประเทศและ สนามบินฮาเนดะ กรุณาเยี่ยมชมสนามบินหน้าตามลำดับสำหรับรายละเอียดการเข้าถึง
งั้นเรามาดูข้างในของพิพิธภัณฑ์กันเลยดีกว่าค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น